เรียนรู้ Forex

ทีละขั้นตอน

ระดับก่อนเรียน

หากคุณไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับ Forex
คุณจะได้ทำความเข้าใจว่าการซื้อขาย Forex นั้นทำอย่างไร
ไม่ใช่เพียงแค่รู้เกี่ยวกับคำจำกัดความและคำศัพท์เฉพาะ Forex พื้นฐานเท่านั้น
โดยคุณสามารถเรียนรู้พื้นฐานที่จำเป็นในการเริ่มต้นทำการซื้อขายได้

3. วิธีการสร้างรายได้ผ่าน Forex

คำศัพท์พื้นฐานของ Forex

ผู้เริ่มต้นก่อนทำการซื้อขายหากไม่ทราบคำศัพท์ Forex ไม่ได้ แม้ว่าคำศัพท์จะได้เรียนรู้ไปแล้วแต่ถ้าไม่ทบทวนก็ไม่มีอะไรดี ดังนั้นมาตรวจสอบกันว่ายังจำกันได้อยู่หรือไม่

สกุลเงินหลักและสกุลเงินรอง

สกุลเงินที่ซื้อขายมากที่สุด 8 สกุลเงิน (USD,EUR,JPY,GBP,CHF,CAD,NZD และ AUD) เรียกว่า สกุลเงินหลัก เนื่องจากสกุลเงินเหล่านี้มีสภาพคล่องสูงสุด ส่วนสกุลเงินอื่นๆเรียกว่า สกุลเงินรอง

สกุลเงินพื้นฐาน

สกุลเงินพื้นฐาน คือ สกุลเงินที่คู่สกุลเงินใดๆนำหน้า / (slash) โดยไม่มีข้อยกเว้น อัตราแลกเปลี่ยนแสดงให้เห็นว่าสกุลเงินพื้นฐานนั้นมีค่าสำหรับสกุลเงินด้านหลังเท่าไหร่ ตัวอย่างเช่น ถ้า USD/CHF เป็น 1.63500 ดังนั้น 1 USD เท่ากับ CHF 1.63500 กล่าวคือ สามารถซื้อ 1 USD ได้ ด้วย 1.63500 สวิสต์ฟรังค์

ในตลาด Forex ดอลล่าร์สหรัฐโดยทั่วไปการชำระเงินจะถูกพิจารณาว่าเป็นสกุลเงินพื้นฐาน หลังถูกแสดงด้วย 1 USD ต่อคู่สกุลเงิน ซึ่งกฎนี้มีข้อยกเว้นและสกุลเงินต่อไปนี้ส่วนใหญ่อาจถือไม่เป็นพื้นฐานได้ เช่น ปอนด์,ยูโร,ดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์นิวซีแลนด์

สกุลเงินอ้างอิง

สกุลเงินอ้างอิง คือ สกุลเงินที่อยู่หลัง(หลังเครื่องหมาย /) ในคู่สกุลเงิน เรียกอีกอย่างว่า สกุลเงิน pip กำไรขาดทุนแสดงเป็นสกุลเงินนี้ด้วย

Pip

Pip คือ หน่วยต่ำสุดของราคาสกุลเงิน ราคาคู่สกุลเงินส่วนใหญ่ประกอบด้วย 5 หลัก (และ 6 หลัก) ตามด้วยจุดทศนิยมทันทีหลังตัวเลขตัวแรก EUR/USD โดยเป็นรูปแบบนี้ 1.1847 ในกรณีนี้ 1 pip จะเป็นตัวแปรที่เล็กที่สุด 0.0001 ที่มีทศนิยม 4 ตำแหน่ง ดังนั้น หากสกุลเงินที่คุณชำระ คือ USD 1 pip จะเท่ากับ 1/100 cent เสมอ

1 Pip = 0.01 JPY เยน อันนี้เป็นข้อยกเว้น โปรดระวัง

Point

เราเรียก 1 pip ของ 10 เหรียญว่า point ซึ่งสิ่งนี้ช่วยให้คุณเห็นการเคลื่อนไหวของราคาอย่างละเอียดยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น การขยับของ EUR/USD 1.32156 ถึง 1.32158 จะส่งผลให้มีขยับ 2 point

ราคา Bid

Bid เป็นราคาเมื่อซื้อคู่สกุลเงินหนึ่งในตลาด Forex ราคานี้อนุญาตให้เทรดเดอร์ขายสกุลเงินพื้นฐาน คือตัวเลขที่แสดงก่อนหน้า / (Slash)
ตัวอย่างเช่น GBP/USD : 1.8812 / 1.8815 ส่วนที่ 1.8812 เป็นราคา Bid การซื้อขายจึงหมายถึง การขายปอนด์(GBP)ในราคา $1.8812 USD

ราคา Ask

ราคา Ask/offer เป็นราคาเมื่อขายคู่สกุลเงินหนึ่งในตลาด Forex ราคานี้อนุญาตเทรดเดอร์ให้ซื้อสกุลเงินพื้นฐาน คือตัวเลขที่แสดงหลัง / (Slash)
ตัวอย่างเช่น GBP/USD : 1.2812 / 1.2815 ส่วนที่เป็น 1.8815 เป็นราคา Ask การซื้อขายจึงหมายถึง การซื้อปอนด์(GBP) ด้วยราคา $1.2815 USD

สเปรด Bid/Ask

สเปรด คือ ความแตกต่างระหว่างราคา Bid กับ Ask “big figure quote” หมายถึง ตัวเลขสองสามตัวแรกของอัตราแลกเปลี่ยน จุดนี้สามารถละเว้นได้ ตัวอย่างเช่น อัตราแลกเปลี่ยน USD/JPY จริงๆเป็น 118.30/118.34 แต่ เทียบตัวเลข 3 ตัวหลังอาจจะเรียก 30/40 ในกรณีนี้ สเปรดของ USD/JPY เป็น 4 pips

ระเบียบราคาท้องตลาด

สกุลเงินพื้นฐาน/สกุลเงินอ้างอิง = Bid / Ask

ค่าใช้จ่ายในการซื้อขาย

คุณสมบัติที่ใหญ่ที่สุดของ Bid/Ask นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นค่าธรรมเนียมการซื้อขายสำหรับการซื้อขาย Round turn ด้วย Round turn หมายถึง การเปิดสถานะไม่ว่าจะขายหรือซื้อและปิดการซื้อขายในทางตรงกันข้ามและชำระปริมาณการซื้อขายเดียวกันคู่สกุลเงินเดียวกัน ตัวอย่างเช่น สำหรับ EUR/USD 1.2812 / 1.2815 ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย คือ 3 pips

สูตรการคำนวณต้นทุนการซื้อขาย :

ค่าใช้จ่ายในการซื้อขาย (สเปรด) = ราคา Ask - ราคา Bid

สกุลเงินครอส

สกุลเงินครอส คือ คู่สกุลเงินอื่นที่ไม่รวม USD

Margin

เมื่อเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ Forex คุณต้องฝากเงินอย่างน้อยจำนวนหนึ่ง โดยเงินประกันขั้นต่ำ ตั้งแต่ $ 100 ถึง $ 1,000 ขึ้นอยู่กับแต่ละโบรกเกอร์

ทุกครั้งที่มีการซื้อขายใหม่จะมีการกำหนดเปอร์เซ็นต์ของยอดเงินคงเหลือในบัญชีเป็นข้อกำหนด Margin ที่จำเป็นสำหรับคำสั่งซื้อใหม่ สิ่งนี้จะถูกกำหนดโดยคู่สกุลเงิน,ราคาปัจจุบัน,ปริมาณการซื้อขาย (จำนวน Lot) ซึ่งปริมาณการซื้อขายจะดำเนินการในสกุลเงินพื้นฐานเสมอ

ตัวอย่างเช่น สมมุติว่าคุณเปิดบัญชีขนาดเล็กที่มี เลเวอเรจ 200:1 หรือ มาร์จิ้น 0.5% ในบัญชี Mini ซึ่งบัญชี Mini มี Mini Lot (10,000 หน่วย) เมื่อคุณเปิดออเดอร์ใน 1 Mini Lot แทนที่จะจ่าย $ 10,000 คุณจะจ่ายเพียง $50 เท่านั้นเป็น Margin ที่จำเป็น ($10,000 x 0.5% = $ 50)

เลเวอเรจ

เลเวอเรจ(Leverage) เป็นอัตราส่วนของเงินทุนที่ใช้ในการซื้อขายเพื่อให้ได้มาร์จิ้นที่จำเป็นและเป็นโครงสร้างที่ช่วยให้การซื้อขายเงินทุนหลายครั้ง เป็นพลังช่วยขยับการซื้อขายจำนวนมากด้วยเงินจำนวนเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมีอัตราส่วนเลเวอเรจตั้งแต่ 2:1 ถึง 1000 : 1 ซึ่งปัจจุบันมีสูงกว่า 1000 : 1 แตกต่างกันไปตามโบรกเกอร์

หลังจากเราได้อธิบายคำศัพท์ที่ใช้ใน Forex แล้ว ต่อไปเรามาดูเกี่ยวกับประเภทคำสั่งการซื้อขายกันดีกว่า